ในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 หรือแม้แต่ในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง หลายคนอาจเกิดความสงสัยและกังวลว่าการ ใส่หน้ากากออกกำลังกาย นั้นส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด การทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เราสามารถดูแลสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมขณะออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัยและถูกวิธี

 

ผลกระทบต่อร่างกายเมื่อต้อง ใส่หน้ากากออกกำลังกาย

 

โดยพื้นฐานแล้ว การสวมหน้ากาก (Mask) ขณะที่ร่างกายกำลังออกแรงย่อมสร้างผลกระทบต่อระบบหายใจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ความอึดอัดที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้เราหายใจลำบากและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายอาจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้ปอดและหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดและแลกเปลี่ยนก๊าซ อย่างไรก็ตาม ระดับความรุนแรงของผลกระทบจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

 

สำหรับ นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายอาจมีความสามารถในการปรับตัวและทนต่อสภาวะหายใจลำบากได้ดีกว่าคนทั่วไป การ ใส่หน้ากากออกกำลังกาย ในระดับที่ไม่หนักมากจึงยังพอทำได้ แต่หากเป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะต้องใช้แรงในการหายใจต้านแรงเสียดทานของหน้ากากเพิ่มขึ้น แม้จะมีงานวิจัยบางส่วนกล่าวถึงการฝึกแบบจำกัดอากาศหายใจเพื่อเพิ่มสมรรถภาพของกล้ามเนื้อระบบหายใจ แต่ในภาพรวมของการออกกำลังกายทั่วไป ยังไม่พบหลักฐานยืนยันว่าการใส่หน้ากากช่วยเพิ่มความฟิตได้มากกว่าการไม่ใส่

 

ในทางกลับกัน กลุ่ม ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือผู้สูงอายุ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การ ใส่หน้ากากออกกำลังกาย จะทำให้หัวใจทำงานหนักเกินความจำเป็น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหลอดเลือดหรือหัวใจ อาจเสี่ยงต่ออันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ ดังนั้นกลุ่มนี้จึงควรหลีกเลี่ยงการปิดกั้นทางเดินหายใจขณะออกแรงหนัก

 

เลือกชนิดหน้ากากอย่างไร หากจำเป็นต้องใส่ขณะออกกำลัง

 

ชนิดของหน้ากากมีผลอย่างมากต่อความสะดวกในการหายใจและความปลอดภัย โดยสามารถแบ่งข้อดีและข้อเสียของหน้ากากแต่ละประเภทได้ดังนี้

 

หน้ากาก N95 ถือเป็นหน้ากากที่มีประสิทธิภาพการกรองสูงสุด แต่ก็เป็นชนิดที่ทำให้หายใจลำบากที่สุดเช่นกัน หากนำมาใช้ขณะออกกำลังกายจะยิ่งเพิ่มความอึดอัด แม้จะเป็นรุ่นที่มีวาล์วช่วยหายใจออกก็ตาม นอกจากจะทำให้เหนื่อยง่ายมากแล้ว หากหน้ากากไม่แนบสนิทไปกับใบหน้าจากการขยับตัว ประสิทธิภาพการป้องกันฝุ่นและเชื้อโรคก็จะลดลงทันที จึงไม่แนะนำให้ใช้สำหรับการออกกำลังกาย

 

หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แม้จะหายใจสะดวกกว่า N95 แต่ปัญหาหลักคือความชื้น เมื่อเราออกกำลังกาย เหงื่อจะทำให้หน้ากากเปียกชื้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประสิทธิภาพการกรองเชื้อโรคลดลง และยังเพิ่มความเสี่ยงที่เราจะเผลอนำมือมาสัมผัสใบหน้าหรือขยับหน้ากากบ่อยขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 

หน้ากากผ้า หรือผ้าบัฟ เป็นทางเลือกที่ทำให้หายใจได้สะดวกที่สุดเมื่อเทียบกับสองแบบแรก ช่วยลดความอึดอัดได้ดีกว่า แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 หรือเชื้อไวรัสหากมีการไอจามใส่โดยตรง อย่างไรก็ตาม การใช้ผ้าคลุมบริเวณจมูกและปากก็ยังพอช่วยลดระยะการกระจายของละอองฝอยได้บ้าง แต่ต้องระวังเรื่องความร้อนสะสมที่อาจเกิดขึ้นหากสวมใส่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

 

ใส่หน้ากากออกกำลังกาย ดีไหม ส่งผลเสียต่อร่างกายหรือไม่

 

ข้อแนะนำสำหรับการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย

 

ทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงโรคระบาด คือการออกกำลังกายที่บ้าน (Home Workout) ซึ่งไม่จำเป็นต้อง ใส่หน้ากากออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเต็มที่และปลอดภัยที่สุด

 

แต่หากมีความจำเป็นต้องออกไปออกกำลังกายนอกบ้าน แนะนำให้ประเมินความเสี่ยงและเลือกสถานที่ที่ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก และมีคนไม่พลุกพล่าน หากสามารถรักษาระยะห่างจากผู้อื่นได้มากพอ การไม่สวมหน้ากากขณะออกกำลังกายจะเป็นผลดีต่อระบบหายใจมากกว่า แต่หากหลีกเลี่ยงฝูงชนไม่ได้ ควรเลือกการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ไม่หักโหมจนเกินไป และหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตนเองอยู่เสมอ รวมถึงรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือเป็นประจำเมื่อสัมผัสจุดสัมผัสร่วมต่าง ๆ

 

ที่มา :: smtinter.com , www.sgb.co.th