โรคกระดูกสันหลังเสื่อม เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหลังที่เกิดได้กับใครหลายคน พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยมีปัจจัยมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น และอาจเกิดในผู้ที่อายุน้อยที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิดๆ ใช้งานกระดูกสันหลังไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ซึ่งอาการปวดหลังนี้สามารถรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ หากดูแลรักษาไม่ถูกวิธี

 

มารู้จักสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคนี้กันเถอะ

เกิดจากกระดูก หมอนรองกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็นกระดูก และกล้ามเนื้อหลังเสื่อมสภาพเมื่ออายุมากขึ้น การโค้งงอของกระดูกสันหลังเป็นเวลานาน ส่งผลให้ข้อต่อระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้ออักเสบ ทำให้ขาดความยืดหยุ่นระหว่างข้อต่อต่างๆ จนในที่สุดร่างกายได้สร้างกระดูกงอกออกจากข้อต่อใหม่ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งกระดูกที่งอกออกมามีขนาดใหญ่เกินไปจนเบียดเส้นประสาทและไขสันหลัง ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังตามมานั่นเอง

 

สัญญาณเตือนกระดูกสันหลังเสื่อม!

  • ปวดคอและหลังเรื้อรัง
  • ปวดต้นคอร่วมกับมีอาการร้าวมาบริเวณแขนหรือขา
  • ปวดหลังจนร้าวมาถึงขาหรือเท้า
  • ปวดหลังเป็นๆ หายๆ และมีอาการชาร่วมด้วย
  • ปวดท้ายทอยคล้ายไมเกรน
  • เดินได้ไม่ไกล มีอาการอ่อนล้าเวลาเดิน

 

เรามีวิธีป้องกันโรคไม่ให้กระดูกสันหลังเสื่อมอย่างไรบ้าง?

  • ปรับท่าทางในชีวิตประจำวันให้เหมาะสม ตั้งแต่การนั่ง ยืน เดินในท่าทางที่ถูกต้อง เช่น การนั่งที่ดีต้องนั่งหลังตรงมีพนักพิงหลัง
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หากมีความจำเป็นต้องยกของหนัก ต้องใช้ตัวช่วยอย่างเข็มขัดพยุงหลัง ที่มีแผ่นเสริมความกระชับแบบ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความกระชับให้มากขึ้น และมาตรฐาน  ISO 13485, มาตรฐาน CE และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อช่วยพยุงหลัง และป้องกันอาการบาดเจ็บบริเวณหลัง
  • ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ไม่นั่งหรือทำกิจกรรมที่อยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ
  • ควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อลดภาระของกระดูกที่ต้องรับน้ำหนัก
  • รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมบำรุงกระดูกและข้อต่ออย่างสม่ำเสมอ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
     

 ที่มา: PPTV Online, S-Spine and nerve hospital และ Chiva care
 

#โรคกระดูกสันหลังเสื่อม #กระดูกสันหลังเสื่อม #Spondylosis #ออฟฟิศซินโดรม #OfficeSyndrome #ผู้สูงอายุ #คนแก่ #พนักงานออฟฟิศ #กระดูกสันหลัง #ปวดหลัง #เจ็บหลัง #แบกของ #ยกของหนัก #เข็มขัดพยุงหลัง #ที่พยุงหลัง #Backsupportbelt